i'd run out of ink. (#จนมีหัวใจ)




.
.





            “โปรด .. อ๊ะ”

            “don’t moan my name, it turns me on.”

            คนตัวเล็กสัมผัสได้ถึงส่วนกลางร่างกายของบางคนที่แข็งขืนขึ้นมาผ่านเนื้อผ้ากางเกงยีนส์ที่เจ้าตัวสวม เอยหน้าร้อน ถดหนีไม่ได้ ในขณะเดียวกันเขากลับให้ความร่วมมือคนที่กำลังปลดกระดุมเสื้อกันช้าๆด้วยการนอนนิ่งๆและเผลอกัดปากตอนที่อีกคนจูบลงที่ลิ้นปี่ ไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงกระดุมเม็ดที่สี่

            “ … ”

            ชินตะชะงักเมื่อพบว่ามีบางอย่างอยู่ตรงนั้น เขารู้ว่าเอยใส่สร้อย แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นสร้อยที่คล้องแหวนวงนั้นที่เขาให้เอยไว้ .. แหวนที่บางคนเก็บมันเอาไว้ใกล้ใจซะเหลือเกิน
            ริมฝีปากร้อนกดจูบลงบนแหวนและกดจูบที่รุนแรงลงกลางแผ่นอกขาวจนร่องรอยสีกุหลาบแต่งแต้มพื้นที่ว่างบนผิวเนียนละเอียด

            “เราไม่ได้ตั้งใจจะถอด อื้ออ .. ตะ แต่เราต้องผ่าตัดแล้วเราก็ผอมลง”
            “เข้าใจแล้ว”
            “ … ”
            “เข้าใจแล้วครับคนดี”

            คำพูดแบบนั้น สายตาสื่อความหมายและเสื้อเชิ้ตตัวที่เอยสวมถูกถอดออกจนมืออุ่นๆนั่นลูบไล้ผิวตัวท่อนบนเขาได้อย่างเพลิดเพลินใจ .. ทั้งหมดนั่นทำให้เอยละลายเป็นเทียนไขโดนไฟและเมื่อริมฝีปากร้อนแตะจูบลงบนหน้าท้อง ไล่ขึ้นมาสูงขึ้นเรื่อยๆและครอบครองยอดอกกัน เอยก็กรีดร้องออกมาไม่เป็นภาษา
            ใบหน้าน่ารักเชิดขึ้น มือเล็กสอดเข้าไปใต้กลุ่มผมคนที่เอาแต่ใจกับร่างกายเขาซะเหลือเกิน .. ไม่นานเอยก็ได้ยินเสียงบางคนรูดซิปกางเกง ชินตะเกือบจะเปลือยเปล่าและเขาไม่กล้ามองกล้ามท้องแน่นๆ ขายาวๆหรือส่วนกลางร่างกายที่แข็งขืนเต็มที่ผ่านชั้นในสีเข้มนั้น
            เอยไม่เคยทำอะไรแบบนี้
            ไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการด้วยซ้ำ

           “may i take off your clothes?”

           ชินตะมองคนน่ารักที่พยักหน้าขึ้นลงช้าๆโดยไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา เขาไม่รู้แล้วว่าตัวเองรักเอยขนาดนี้ได้ยังไงและยิ่งเห็นปฏิกิริยาของอีกคนตอนที่เขาถอดกางเกงขาสั้นตัวนั้นของเอยออก กดจูบลงบนหัวเข่า ขาและเท้า เขาก็รู้ว่านี่เป็นครั้งแรก
            ครั้งแรกของคนที่น่ารักที่สุดในโลกของเขา

            “อย่าจูบตรงนะ นั้น .. อื้อ!”

            เขาไม่ได้ตะกละตะกลามแต่ใช่ว่าเขาจะไม่หิวโหย สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือค่อยๆละเลียดความหวานจากผิวกายและสูดเอากลิ่นหอมเฉพาะตัวบนผิวนุ่มของเอยเท่านั้น เขากดจูบลงบนชั้นในสีขาวของคุณหมอ ถอดมันลงช้าๆและได้ยินเสียงลมหายใจที่ขาดห้วงไปของคนน่ารักที่ไม่ยอมสบตาเขาสักวินาที

            “มองโปรด”
            “มะ ไม่เอา”
            “เอยครับ .. มองโปรด”

            ง่ายดาย
            ไม่ใช่แค่เอยที่มีเวทย์มนต์หรอก .. ตากลมสบกับดวงตาคู่นั้นของชินตะที่เอยคิดว่ามันสวยงาม ใบหน้าหล่อเหลานั่นเหมือนกับงานศิลปะที่เอยมองได้ทั้งวันโดยอาจตีความหมายหรือไม่ได้ตีความหมายอะไรเลยก็ได้
            ริมฝีปากเจ่อช้ำจากการแลกจูบกับคนที่ค่อยๆครอบครองส่วนกลางร่างกายเขาช้าๆเหมือนจะแกล้งกันเผยอเก็บเกี่ยวลมหายใจ เอยครางไม่เก็บเสียง เพราะห้ามตัวเองไม่เป็นไม่ว่ากับเรื่องไหน .. ถ้ามันเกี่ยวกับชินตะล่ะก็ เอยไม่เคยห้ามตัวเองได้เลย

            “โปรด ยะ อย่า อย่าทำเอย”

            คนตัวเล็กกว่าร้องขออย่างน่าสงสารเมื่อฟันคมครูดลงบนแก่นกายขนาดพอดีมือนั้น ชินตะสนุกกับการแกล้งคุณหมอผู้ไม่ประสีประสา หัวใจเขาเต้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อรับรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรและกำลังจะได้ทำอะไร
           
           “อื้อออ .. โปรดอย่าแกล้งเอยค่ะ”

            ชินตะสบถ ถอนริมฝีปากจากการปรนเปรอคนขี้ยั่ว เขาเคยได้ยินเอยพูดคะขากับน้องนักศึกษาในวอร์ดมาหลายครั้ง แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่เอยจะพูดแบบนั้นกับเขา .. แน่นอนล่ะว่าเขาจินตนาการถึงมันมาตลอด แต่ในตอนที่มันเกิดขึ้นจริงๆในสถานการณ์แบบนี้
            เขารู้สึกว่าเขาคงอ่อนโยนกับแมวตัวที่กำลังกัดปากเพราะความสูงของอารมณ์ที่เขาพาไปแตะอยู่ไม่ได้เลย

            “รู้มั้ยว่าพูดอะไรออกมา”
            “อ๊า!”

            เอยไม่ได้ตอบ
            ไม่ใช่เพราะไม่อยากตอบ แต่อีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสให้เขาทำแบบนั้น ริมฝีปากของเขาถูกครอบครองและฝ่ามืออุ่นร้อนนั้นชักรูดแก่นกายเขาจนตอนที่ปิดเปลือกตาลง เขาเห็นทุกๆอย่างเป็นสีขาว .. อะดรีนาลีนในตัวเขาหลั่งจนถึงจุดที่ตัวกระตุกเกร็งปลดปล่อยความต้องการออกมาจนเปรอะคนที่ค่อยๆยกมือตัวเองขึ้นมาเลียตรงหน้าเขาช้าๆเหมือนจะแกล้งให้ตายตรงนี้

            “and this also tastes like heaven too.”

            และนั่นอาจเป็นอะไรที่ลามกที่สุดที่เอยเคยได้ยินมาในชีวิต
            เอยหอบหายใจ มองคนที่หยัดตัวไปหยิบซองถุงยางมา .. มือเล็กๆเอื้อมไปแตะขอบชั้นในของคนที่มีกล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวย เอยไม่เคยรู้สึกว่ามือตัวเองสั่นขนาดนี้มาก่อนและยิ่งตอนที่เขาเลื่อนชั้นในของบางคนลง แตะส่วนที่ร้อนและแข็งขืนก่อนจะเลียนแบบวิธีการที่อีกคนทำกับเขา

            “damn it .. ”

            ชินตะสบถ เขาแพ้ความไม่ประสีประสาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆที่คิดว่าเขาชอบคนที่มีประสบการณ์กับเรื่องบนเตียง แต่พอเจอเอย เขารู้สึกว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ขยับสะโพกเข้าหาริมฝีปากเล็กๆที่ค่อยๆครอบครองส่วนนั้นของร่างกายเขา
            มันเป็นภาพที่ลามกแต่เขาจะไม่โกหกว่าเขาชอบมัน .. เขาชอบวิธีการที่เอยค่อยๆทำมันแต่ไม่ได้กลัว เขาลูบแก้มคนที่แลบลิ้นออกมาเลียส่วนหัวในขณะที่มือข้างหนึ่งจับแก่นกายเขาที่ขยายขึ้นเรื่อยๆแล้วออกแรงรูดเบาๆ

            “เอย .. เอยครับ”

            ชินตะพูดเหมือนเพ้อ เขาครางในลำคอเมื่อบางคนพยายามรับมันเข้าไปจนสุดแต่ก็ทำไม่ได้ เอยน่ารัก แก้มแดงๆนั่นน่ารัก ใบหน้างอๆเพราะทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจนั่นก็น่ารัก เขาโน้มใบหน้าลงไปมอบจูบให้เด็กดีก่อนจะคร่อมทับบางคนไว้จนร่างกายเราแนบกันทุกส่วน
            ขวดเจลหล่อลื่นถูกหยิบมาชโลมแท่งร้อนที่เจ้าของใช้ถูไถช่อทางคับแคบ .. อาจจะดูนิสัยเสีย แต่เขาตั้งใจแล้วว่าอย่างแรกที่เข้าไปในร่างกายเอย มันไม่ควรเป็นนิ้ว
            มันควรเป็นเขา

            “โปรด .. ปะ โปรด อ๊าาา”
            “ขอโทษครับ”

            เป็นตัวตนของเขา

            “โปรดโคตรรักเอยเลยนะ .. รักจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”
            “อื้ออ ฮะ .. แฮ่ก มัน มันแน่นเกินไป” เอยครวญครางเมื่อส่วนหัวเข้ามาโดยไม่มีการเบิกทางใดๆก่อน แม้ว่าเอยจะรู้ว่าสุดท้ายร่างกายเขาก็จะรับมันเข้าไปได้ทั้งหมด แต่มันก็ต้องผ่านส่วนที่เจ็บมากๆไปซะก่อนอย่างตอนนี้
           
            “แต่โปรดหยุดไม่ได้แล้วครับคนดี”

            เล็บของเอยฝังเข้าไปในผิวของคนที่จูบเพื่อเบนความสนใจกัน จุดอ่อนของคุณหมออยู่ที่ซอกคอ ไม่ว่าจะแตะต้องเมื่อไหร่ก็จะได้เสียงครางหวานๆกับการปล่อยตัวให้เบาโหวงจนชินตะดันแก่นกายตัวเองเข้าไปจนมันสุด .. คนตัวโตกว่าแช่ค้างไว้แบบนั้น แลบลิ้นเลียแผ่นอกเอย ขบและกัดจนมันขึ้นรอยฟันอย่างน่ากลัว
            มือร้อนบีบสะโพกนิ่มให้ผ่อนคลายลง เอยที่ทั้งรักทั้งชังการกระทำที่บางครั้งก็ห่ามแต่บางคราวก็อ่อนโยนแบบนั้นเป็นบ้า เขาใจเต้นระรัว เหงื่อผุดพรายและรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอีกคนค่อยๆขยับตัวจนเขาเผลอส่งเสียงน่าอายออกไปก็ยิ่งร้อน
           
            “แน่นเกินไปแล้วเอย .. หายใจช้าๆหน่อยครับ”
            “กะ ก็เราเจ็บ อื้อ! คุณ!”
            “ตรงนี้เหรอ?”

            นัยน์ตาเจ้าเล่ห์กับการขยับซ้ำๆอยู่ตรงที่เดิม ที่ที่ทำให้เอยเผลออ้าขากว้างอย่างไม่รู้ตัว ชินตะประกบปากจูบกับคนน่ารักที่เขาอยากรังแกให้ร้องไห้จนตาแดงเหมือนกับตัวที่ขึ้นสีแดงตัดกับเตียงสีขาว
            สะโพกหนากระแทกกระทั้นพาความต้องการของตัวเองเข้าไปหาจุดที่เอยพึงพอใจ เอยได้ยินเสียงบางคนครางอย่างสุขสม มันเซ็กซี่และทำให้สมองเขาว่างเปล่า

            “อ๊ะ อ๊าา .. โปรด โปรด”
            “เรียกอีก”
            “อื้อ!”
            “คนดี .. เรียกชื่อโปรดหน่อย” ตาคมมองใบหน้าน่ารักที่ครวญครางอยู่กับหมอนเมื่อเขาเปลี่ยนท่าไปให้ช่องทางด้านหลังของอีกคนรังแกได้ง่ายกว่าเก่า สะโพกเอยสวย เอวคอดและแผ่นหลังขาวๆมีรอยจูบของเขาแต้มอยู่ มันทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้เลย เขายึดเอวบางๆนั่นไว้ก่อนจะกระแทกกระทั้นเข้าหาอีกคนเหมือนคลื่น
            เอยครางไม่เป็นภาษา เขารู้ว่าคนตัวเล็กกำลังสุขสมเพราะแก่นกายนั่นแข็งขืนและใกล้จะถึงฝั่งฝันทั้งๆที่เขาไม่ได้แตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ

           “เรารักคุณนะ .. ฮะ ระ เรารักคุณ”

            ชินตะหยุดหายใจเพราะคำสารภาพสั้นๆนั้น เขาโน้มใบหน้าลงไปฟังมันใกล้ๆ เอยกระซิบมันอีกครั้งเพื่อบอกเขาและมันน่ารักมากๆจนเขาต้องกดจูบลงบนแก้มนุ่ม ถอนสะโพกออกแบบที่คนตัวเล็กหายใจสะดุดและหลุดครางออกมาเพราะส่วนที่เติมเต็มกันหายไป

            “เรารักโปรด รักมากๆเลย อ .. อื้อออ!”

            หากแต่มันกลับเข้ามาใหม่ในเวลาอันสั้น สอดเข้าไปลึก แรงและกระแทกเข้าไปตรงจุด
            คนตัวเล็กครางเสียงหลง เขาเสร็จในวินาทีต่อมาแต่คนที่ดูเหมือนว่าจะเอาเปรียบกันเรื่อยๆยังไม่หยุดขยับสะโพก เอยได้รับรางวัเป็นการเปลี่ยนท่าอีกครั้ง ประกบริมฝีปากแล้วกระซิบคำว่ารักให้ฟังตั้งสามภาษา .. จริงๆเอยก็เพิ่งรู้ว่ามันแปลว่าอะไรตอนที่อีกคนพูดมันอีกครั้งหลังจากพูดว่า ‘i love you so damn much.’ จบ








let's get back to read the rest at dek-d ka
q:



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม